NIA ได้รับการจัดให้เป็นอันดับที่ 1 จากผลการสำรวจ 2022-2023 Thailand's Most Admired Company ในกลุ่ม “องค์การมหาชน”

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า แม้วันนี้ NIA จะก้าวมาเป็นองค์การมหาชนอันดับ 1 จากการสำรวจ 2022-2023 Thailand's Most Admired Company แต่การจะรักษาความนิยมอยู่ได้องค์กรต้องมีธรรมาภิบาล ความโปร่งใส โดยเฉพาะภายในที่ต้องยึดมั่นต่อเป้าหมายในการสร้าง Ecosystem ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ในฐานะองค์กรหลักในการเสริมสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเพิ่มคุณค่าที่ยั่งยืน สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
(องค์การมหาชน) หรือ NIA มีบทบาทในการส่งเสริมการสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติ สร้างโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรม รวมถึงยกระดับทักษะและความสามารถทางนวัตกรรมของกลุ่มเป้าหมาย โดยจากพันธกิจนี้ส่งผลให้ NIA ถูกจัดให้เป็นอันดับที่ 1 จากผลการสำรวจ 2022-2023 Thailand's Most Admired Company ในกลุ่ม “องค์การมหาชน”
 
“เราเป็นองค์กรนวัตกรรม ซึ่งปัจจุบันเรื่องนี้แทรกซึมอยู่ในทุกวงการไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป ภาคเอกชน หรือภาครัฐ ล้วนเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมทั้งสิ้น เราทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม จึงมีการสร้าง Awareness ผ่านโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ ซึ่งผมมองว่านี่เป็นจุดเด่นที่ทำให้ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมามีคนรู้จักเรามากขึ้น อย่างเฟสบุ๊คเมื่อก่อนมีคนติดตามเราเพียงแค่หลักร้อย ปัจจุบันมีคนติดตามเรา 2 แสนกว่าราย ช่องทางยูทูบจากคนตามไม่กี่ร้อย ตอนนี้มีคนติดตามเรา 2 หมื่นกว่าราย นอกจากนั้นคอนเทนต์ที่เราสร้างคือความตระหนักรู้เรื่องของนวัตกรรม เป็นอีกส่วนที่สามารถเข้าถึงคนในหลากหลายกลุ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ประชาชนทั่วไป บริษัท เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ น้อยคนที่จะไม่รู้จัก NIA  ดังนั้นหลักๆ ก็คือคอนเทนต์ที่เรานำเสนอออกไปกับช่องทางโดยเฉพาะ  โซเชียลมีเดีย ที่เข้าถึงกลุ่มคนหลากหลาย ทำให้เราเป็นที่รู้จักและคนชื่นชมเรา” ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าว นอกเหนือจากนั้น การทำงานกับภาคเอกชนในส่วนของการพัฒนาธุรกิจ เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสร้างให้แบรนด์ของ NIA แข็งแกร่งมากขึ้น
 
เนื่องจาก NIA มีการขยายงานตามภารกิจโดยการเชื่อมโยงกับนักลงทุนระดับแองเจิ้ล นักลงทุน CVC ธนาคาร บริษัทขนาดใหญ่ที่ทำเรื่องนวัตกรรมเข้ามาอยู่ใน Startup Ecosystem ยกระดับการลงทุนเรื่องนวัตกรรมในประเทศ ซึ่งเป็นบทบาทที่ค่อนข้างชัดเจนมากของ NIA
 
“ปัจจุบัน นวัตกรรมกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน เพราะฉะนั้นเวลาที่คนพูดถึงหน่วยงาน เขาก็จะนึกถึงว่ามีหน่วยงานไหนที่ทำเรื่องเหล่านี้ 2-3 ปีที่ผ่านมา เราได้รับการติดต่อจากทุกวงการทั้งในแง่ของการขอให้เข้าไปช่วยให้ความรู้ พูดถึงเทรนด์มากขึ้น ซึ่งนี่ถือเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ NIA ถูกพูดถึงในวงกว้างมากขึ้น”
 
ด้วยความเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม แม้ว่าในแง่ของภารกิจ NIA อาจจะไม่ใช่ภาครัฐที่โดดเด่นในด้านของการมีเทคโนโลยี ห้องแล็บที่ทันสมัย แต่นวัตกรรมสำหรับ NIA คือการสร้างองค์กรนวัตกรรมในลักษณะของการเป็นองค์กรภาครัฐรุ่นใหม่ที่ทำงานไม่เหมือนกับภาครัฐแบบที่หลายคนคุ้นเคย
 
“เรามีเจ้าหน้าที่อายุน้อย เป็นคนรุ่นใหม่ที่เปิดกว้าง เป็นองค์กรรัฐที่ไม่ค่อยเหมือนรัฐ ทำให้เวลาที่เราทำ Organizational Innovation ค่อนข้างจะโดดเด่น เราเป็นองค์กรที่สนับสนุนให้คนอื่นทำนวัตกรรม เพราะฉะนั้นเราต้องทำองค์กรให้มีนวัตกรรมเพื่อให้คนเห็นภาพลักษณ์ตรงนี้ทำให้ NIA โดดเด่น อีกส่วนที่ทำให้เราโดดเด่นก็คือด้าน Performance ซึ่งเราขยายงานฟังก์ชั่นไปสู่งานที่เป็นงานพัฒนา เพราะฉะนั้นแบรนด์ของเราจึงค่อนข้างเป็นที่ต้องการ ปัจจุบันคนมาขอทุนเราก็จะได้มากกว่าทุน แต่เป็นการทำให้เขาต่อยอดไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจได้ เช่น การ Associate กับ Ecosystem ที่เราสร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับบริษัทขนาดใหญ่ ตลาดทุน เป็นต้น”

ในด้านของการจัดการ เนื่องจาก NIA มีบอร์ดบริหารส่วนใหญ่มาจากภาคเอกชนทำให้ในแง่ของการทำงานมีความใกล้ชิดกับเอกชน ในขณะเดียวกันความเป็นองค์การมหาชนทำให้การทำงานถูกออกแบบให้มีโครงสร้างองค์กรเหมือนกับองค์กรเอกชน จึงมีความคล่องตัว
 
“นโยบายของเราเน้นเรื่องของการสร้าง Ecosystem ในฝั่งเอกชน อย่างที่เราเรียกว่าการ Connect the Dot ซึ่งเราทำมาแล้ว 5-6 ปี เพราะฉะนั้นนั่นคือการสะสมสะพานเชื่อมเครือข่ายของเรา ซึ่งตอนนี้เรามีเครือข่ายอยู่กว่า 1,000 ราย ทำให้เราสามารถให้บริการสนับสนุนภาคธุรกิจได้ค่อนข้างสะดวก ทั้งกับผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี หรือแม้กระทั่งการทำงานกับภาคีบริษัทขนาดใหญ่ นอกจากนั้น ช่วงก่อนโควิดเราทำเรื่องของดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นไปล่วงหน้าแล้ว งานเกิน 90% จึงสามารถทำผ่านออนไลน์ได้หมด คนจึงไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้ามาในกรุงเทพฯ การให้บริการจึงสะดวกขึ้นมาก”
 
สำหรับ NIA นอกจากการส่งเสริมการสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติแล้ว สิ่งหนึ่งที่ NIA ให้ความสำคัญ คือเรื่องของการสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม ซึ่งดร.พันธุ์อาจ เสริมว่า เป็นอีกเส้นเลือดใหญ่ที่ NIA ต้องการเข้าไปสนับสนุนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม
 
“เราทำมากกว่า CSR เพราะเรามีแผนก Social Innovation ที่ให้ทุนด้านนวัตกรรมสังคม เราดูแลจังหวัดยากจนกว่า 10 จังหวัด มีโครงการเป็นร้อยที่สนับสนุนการทำนวัตกรรมเพื่อสังคม และทำงานกับบริษัทขนาดใหญ่ อย่างเช่น ช.การช่าง ในการสร้างช่างชุมชน มีการทำงานกับเทศบาล อบต. อบจ. กลุ่มคนด้อยโอกาส ในช่วงก่อนโควิด เรามีภาคีที่ทำเรื่องนวัตกรรมสังคม นวัตกรรมความเหลื่อมล้ำกว่า 1,000 โครงการ ปีที่ผ่านมา เรามีโครงการไฮไลท์ที่เราภูมิใจ คือโครงการที่เราให้เงินทุนเพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมให้กระจายไปตามภูมิภาค ทำให้ผู้ประกอบการที่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำนวัตกรรม ได้รู้จักว่าการทำโครงการนวัตกรรมเป็นอย่างไร นั่นคือโครงการนิลมังกร ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าโครงการของเราสามารถวัดได้ว่าเขาเติบโตจริงจากรายได้ ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ 3 เท่า แต่บางคนสามารถเติบโตได้มากกว่านั้นเป็น 10 เท่าหรือ 12 เท่า โครงการนี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า เราร่วมมือร่วมใจกับ Ecosystem แล้วทำให้ทั้งเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพโตได้จริง”
 
แผนงานในปีหน้าของ NIA คือการก้าวสู่เป้าหมายการเป็นประเทศที่อยู่ใน TOP 30 ประเทศ ที่เป็นชาตินวัตกรรมโลก ภายในปี 2570 ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยติดอยู่ที่อันดับที่ 43 มาพักนึงแล้ว
 
“เราจำเป็นต้องทำให้แบรนด์ของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมโดดเด่นขึ้นมาในระดับนานาชาติ ต้นปีที่ผ่านมาเราเดินทางหลายประเทศเพื่อทำให้แบรนด์นวัตกรรมของประเทศไทยเป็นที่รับรู้ และนักลงทุนได้เห็นว่าเรามีศักยภาพที่เขาจะเข้ามาลงทุน และทำให้เมืองไทยเป็นแหล่งรวมนวัตกรระดับโลกให้ได้ ปีหน้าเป็นปีที่สำคัญเพราะเป็นปีนวัตกรรมไทย-ฝรั่งเศส เราจะทำให้นวัตกรรมของประเทศไทยโดดเด่นในหลายสาขา โดยเริ่มต้นที่ปารีสก่อนและกระจายไปทั่วโลก”
 
แม้วันนี้ NIA จะก้าวมาเป็นองค์การมหาชนอันดับ 1 จากการสำรวจ 2022-2023 Thailand's Most Admired Company แต่ดร.พันธุ์อาจมองว่า การจะรักษาความนิยมอยู่ได้องค์กรต้องมีธรรมาภิบาล ความโปร่งใส โดยเฉพาะภายในที่ต้องยึดมั่นต่อเป้าหมายในการสร้าง Ecosystem ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
 
“ในแง่ของการสร้างแบรนด์ เราก็ไม่ต่างจากเอกชน เราอาจจะมีแต้มต่อเพราะชื่อของเรามีคำว่านวัตกรรม เพราะฉะนั้นเราจะไม่หยุดอยู่กับที่ ต้องไปข้างหน้าเรื่อยๆ คำว่า NIA สำคัญมากว่าคนจะจดจำเราแบบไหนก็อยู่ที่เราสร้างแบรนด์อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำค่อนข้างมากหากเทียบกับหลายๆ หน่วยงานราชการ สุดท้ายคือผู้บริหารต้องแอ็กทีฟมาก เพื่อทำให้เห็นว่าเราไม่ได้อยู่กับที่แต่เราเป็นราชการที่คอยกำหนดเทรนด์ตัวนี้สำคัญมาก”



คะแนนโหวต :